
การสร้างโกดัง ไม่ว่าจะเพื่อใช้งานเองหรือขาย จำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายด้าน เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้
1. ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
- ต้องยื่นแบบแปลนโกดังที่ออกแบบโดย สถาปนิกหรือวิศวกร ต่อ สำนักงานเขตหรือเทศบาล
- ตรวจสอบเรื่อง ความปลอดภัย โดยเฉพาะหากโกดังมีขนาดใหญ่
- บางพื้นที่ต้องได้รับอนุมัติจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง
2. ขออนุญาตใช้ที่ดินให้เหมาะสม
- หากที่ดินเดิมเป็น ที่ดินเกษตร อาจต้องขอเปลี่ยนประเภทเป็นเพื่อ พาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรม
- ตรวจสอบว่าพื้นที่ตั้งอยู่ใน เขตที่อนุญาตให้สร้างโกดัง หรือไม่
3. ขออนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม (กรณีโกดังขนาดใหญ่)
- ถ้าโกดังมีผลกระทบ เช่น เสียง กลิ่น ของเสีย หรืออยู่ในเขตอุตสาหกรรม อาจต้องยื่นขอ รายงาน EIA ต่อ กรมควบคุมมลพิษหรือสิ่งแวดล้อม
4. ขอใบอนุญาตด้านธุรกิจ (กรณีใช้โกดังเพื่อค้า)
- หากโกังใช้ เก็บสินค้าเพื่อจำหน่าย ต้องขอ
- ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จากท้องถิ่น
- ใบอนุญาตเฉพาะจาก กรมพาณิชย์ (กรณีสินค้าเฉพาะ เช่น อาหาร ยา ฯลฯ)
5. ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
- หากมีลูกจ้าง ต้อง:
- จดทะเบียนนายจ้าง
- ส่งประกันสังคม และ หักภาษีเงินได้ ตามกฎหมาย
6. ตรวจสอบข้อกำหนดอาคารสูง (ถ้ามี)
- ถ้าโกดังสูงเกินมาตรฐาน ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายอาคารสูง เพิ่มเติม เช่น ระบบระบายอากาศ ความปลอดภัย ฯลฯ
สรุป:
การสร้างโกดังไม่ใช่แค่เรื่องก่อสร้าง แต่รวมถึงการใช้พื้นที่ การขออนุญาตทางธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อพนักงานและสิ่งแวดล้อม การเตรียมการและทำให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น จะช่วยป้องกันปัญหาและทำให้โกดังของคุณถูกกฎหมาย พร้อมใช้งานอย่างมั่นใจ
อ้างอิง https://www.parkfac.com/permission-to-build-warehouse/