
ในโลกของธุรกิจยุคใหม่ โกดังสินค้า (Warehouse) ไม่ได้มีบทบาทแค่เป็นสถานที่เก็บของเท่านั้น แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และเปิดโอกาสในการจ้างงานมากมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่อีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว
1. โกดัง = โอกาสในการลงทุน
การลงทุนสร้างโกดังกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น:
- โกดังให้เช่า: สำหรับผู้ประกอบการ SME หรืออีคอมเมิร์ซ
- โกดังเก็บสินค้าเฉพาะทาง: เช่น สินค้าแช่แข็ง วัตถุอันตราย หรือสินค้าเกษตร
- โกดังแบบ Fulfillment: ให้บริการรับสินค้า แพ็กของ ส่งของ ครบวงจร
จากการสร้างโกดังหนึ่งแห่ง นักลงทุนสามารถมีรายได้จากค่าเช่า และหากบริหารจัดการดี สามารถต่อยอดทำเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ได้อีกด้วย
2. โกดัง = แหล่งสร้างอาชีพ
โกดังไม่ได้ทำงานด้วยเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการแรงงานในหลากหลายระดับ ตั้งแต่:
- พนักงานจัดเรียงสินค้า, แพ็กของ, ขับรถโฟล์คลิฟต์
- เจ้าหน้าที่คลังสินค้า, ฝ่ายควบคุมสต๊อก
- ผู้จัดการคลังสินค้า, วิศวกรโลจิสติกส์
- ฝ่าย IT ที่ดูแลระบบ WMS หรือระบบการติดตามสินค้า
ในหลายประเทศรวมถึงไทย ธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่จ้างงานมากที่สุด
3. โกดัง = จุดเชื่อมธุรกิจ
ธุรกิจที่เติบโตในยุคนี้มักพึ่งพาโกดัง เช่น:
- E-Commerce : ทุกคำสั่งซื้อสินค้าจำเป็นต้องมีคลังสำหรับจัดเก็บและกระจายสินค้า
- อุตสาหกรรมการผลิต : จำเป็นต้องมีโกดังสำหรับวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป
- ภาคเกษตร : มีการใช้โกดังเก็บผลผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์
ดังนั้น โกดังจึงเป็นจุดเชื่อมสำคัญของซัพพลายเชนทั้งหมด
โกดังในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “ที่เก็บสินค้า” อีกต่อไป แต่เป็น ศูนย์กลางของโอกาสทางธุรกิจ ที่สามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างแท้จริง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.longtunman.com/ https://www.parkfac.com/