Inventory Control (การควบคุมสินค้าคงคลัง) คือกระบวนการจัดการสต็อกทั้งหมดของธุรกิจ เพื่อให้มีสินค้า “พอดีเสมอ”
ไม่มากเกินไปจนทุนจม และไม่น้อยเกินไปจนขายไม่ได้ โดยครอบคลุมตั้งแต่การรับเข้า การจัดเก็บ การตรวจนับ ไปจนถึงการส่งออก

เหมาะกับทุกธุรกิจที่มีสต็อกสินค้า ไม่ว่าจะมีคลังของตัวเองหรือใช้บริการ คลังสินค้าให้เช่า เพราะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้อย่างชัดเจน


ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องสนใจ Inventory Control

ลดต้นทุน

  • ลดการสต็อกเกินจำเป็น
  • ลดของเสื่อม ของล้าสมัย
  • ลดค่าใช้จ่ายด้านพื้นที่จัดเก็บ โดยเฉพาะผู้ที่ เช่าคลังสินค้า

เพิ่มกำไร

  • มีสินค้าพร้อมขายตลอด ไม่เสียโอกาสการขาย
  • เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • หยิบสินค้าได้เร็ว
  • ลดความผิดพลาดในการจัดส่ง

ทำให้วางแผนได้แม่นยำ

  • วางแผนสั่งซื้อและวางแผนผลิตได้แบบมีข้อมูลรองรับ

องค์ประกอบสำคัญของ Inventory Control

1.การรับสินค้า (Receiving)

ตรวจสอบจำนวน คุณภาพ และความถูกต้องก่อนรับเข้าคลัง

2.การจัดเก็บสินค้า (Storage)

วางสินค้าตามหมวดหมู่ เข้าถึงง่าย ช่วยลดเวลาการหยิบ
เหมาะมากสำหรับพื้นที่ใน คลังสินค้าให้เช่า ที่ต้องใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า

3.การติดตามสินค้า (Tracking)

รู้ว่า “สินค้าอยู่ที่ไหน จำนวนเท่าไหร่” ด้วย

  • Barcode
  • SKU
  • ระบบ WMS

4.การตรวจนับสต็อก (Counting / Auditing)

ทำ Cycle Counting หรือการนับเป็นรอบ เพื่อลดข้อผิดพลาดจากสต็อกค้าง

5.การเติมเต็มสินค้า (Replenishment)

สั่งซื้อเพิ่มเมื่อถึงจุดกำหนด (Reorder Point) เพื่อไม่ให้สินค้าหมด


เทคนิคและเครื่องมือช่วยควบคุมสต็อก

ABC Analysis

แบ่งสินค้าตามความสำคัญ

  • A = สำคัญมาก ต้องควบคุมเข้ม
  • B = ความสำคัญปานกลาง
  • C = ความสำคัญต่ำ

EOQ (Economic Order Quantity)

คำนวณปริมาณสั่งซื้อที่เหมาะสมที่สุด ลดต้นทุนรวม

JIT (Just-In-Time)

รับสินค้าเมื่อจำเป็น ช่วยลดการใช้พื้นที่ในคลัง
เหมาะกับธุรกิจที่ซัพพลายเออร์เชื่อถือได้ หรือผู้ที่ต้อง เช่าคลังสินค้าแบบพื้นที่จำกัด

ระบบ WMS (Warehouse Management System)

ระบบจัดการคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ ครอบคลุมตั้งแต่รับสินค้า–หยิบ–ส่งออก
เหมาะสำหรับธุรกิจที่เติบโตเร็วและต้องการจัดการสต็อกแบบมืออาชีพ


5 ขั้นตอนสู่การควบคุมสต็อกที่ดี (ฉบับเจ้าของธุรกิจ)

1. ประเมินปัญหาในปัจจุบัน

เช่น สต็อกเกิน สินค้าหมดบ่อย รับของผิด

2. เลือกเทคนิคที่เหมาะกับสินค้า

ใช้ ABC Analysis แยกกลุ่มสินค้า
ใช้ EOQ คำนวณปริมาณสั่งซื้อ

3. ใช้ระบบที่เหมาะสม

เริ่มจาก Excel ได้ แต่ถ้าสินค้าเยอะควรใช้ WMS โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ คลังสินค้าให้เช่า เพื่อความแม่นยำ

4. กำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน

แยกหน้าที่รับของ–จัดเก็บ–ตรวจนับ เพื่อลดความผิดพลาด

5. วิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงต่อเนื่อง

ใช้ข้อมูลจริงจากระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้เรื่อย ๆ

สรุป

Inventory Control = มีสินค้า “พอดี” ตลอดเวลา
ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ทำให้คลังทำงานลื่นไหล โดยเฉพาะผู้ที่ เช่าคลังสินค้า จะได้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ไม่สต็อกเกินจำเป็น

อ้างอิง https://www.mac5legacy.com/ , https://www.businessplus.co.th/ , https://packhai.com/