
Blockchain กับคลังสินค้า
Blockchain คือเทคโนโลยีบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger) ที่จัดเก็บข้อมูลธุรกรรมในรูปแบบ “บล็อก” เชื่อมต่อกันเป็นห่วงโซ่ ข้อมูลทุกอย่างถูกเข้ารหัส ปลอดภัย และยากต่อการแก้ไข ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบริหารจัดการ คลังสินค้า และ คลังสินค้ให้เช่า
ประโยชน์ของ Blockchain ในคลังสินค้า
- ติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์
- ตรวจสอบสินค้าได้ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
- ลดความเสี่ยงของสินค้าสูญหายหรือเสียหาย
- เพิ่มความโปร่งใส
- ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน
- ลดข้อขัดแย้งและความผิดพลาดจากข้อมูลไม่ตรงกัน
- ปลอดภัยสูง
- ข้อมูลทุกบล็อกถูกเข้ารหัสและเชื่อมกับบล็อกก่อนหน้า
- แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปลอมแปลงข้อมูล
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน เช่น การยืนยันการจัดส่งหรือการชำระเงิน
- ดำเนินงานได้รวดเร็วขึ้น
- ลดต้นทุน
- ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางหรือนายหน้าในการตรวจสอบข้อมูล
- ลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสารและการบริหารจัดการ
ตัวอย่างการใช้งาน
บริหารห่วงโซ่อุปทาน: ตรวจสอบการผลิต ขนส่ง และกระจายสินค้าได้ทุกขั้นตอน
ติดตามสินค้าเกษตร: ผู้บริโภคตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพได้ทันที
จัดการสินค้าคงคลัง: เห็นปริมาณสินค้าจริงแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาสินค้าขาดหรือเกินสต็อก
การนำ Blockchain มาใช้ใน คลังสินค้า และ คลังสินค้ให้เช่า ช่วยให้ธุรกิจมีความโปร่งใส ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนและสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้สามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัลที่ต้องการความแม่นยำและความไว
อ้างอิง https://katalyst.kasikornbank.com/ , https://www.prologis.com/ , https://www.depa.or.th/ , https://acropolium.com/