Blockchain กับคลังสินค้า
Blockchain คือเทคโนโลยีบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger) ที่จัดเก็บข้อมูลธุรกรรมในรูปแบบ “บล็อก” เชื่อมต่อกันเป็นห่วงโซ่ ข้อมูลทุกอย่างถูกเข้ารหัส ปลอดภัย และยากต่อการแก้ไข ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบริหารจัดการ คลังสินค้า และ คลังสินค้ให้เช่า

ประโยชน์ของ Blockchain ในคลังสินค้า

  1. ติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์
    • ตรวจสอบสินค้าได้ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
    • ลดความเสี่ยงของสินค้าสูญหายหรือเสียหาย
  2. เพิ่มความโปร่งใส
    • ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน
    • ลดข้อขัดแย้งและความผิดพลาดจากข้อมูลไม่ตรงกัน
  3. ปลอดภัยสูง
    • ข้อมูลทุกบล็อกถูกเข้ารหัสและเชื่อมกับบล็อกก่อนหน้า
    • แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปลอมแปลงข้อมูล
  4. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    • ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน เช่น การยืนยันการจัดส่งหรือการชำระเงิน
    • ดำเนินงานได้รวดเร็วขึ้น
  5. ลดต้นทุน
    • ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางหรือนายหน้าในการตรวจสอบข้อมูล
    • ลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสารและการบริหารจัดการ

ตัวอย่างการใช้งาน

บริหารห่วงโซ่อุปทาน: ตรวจสอบการผลิต ขนส่ง และกระจายสินค้าได้ทุกขั้นตอน

ติดตามสินค้าเกษตร: ผู้บริโภคตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพได้ทันที

จัดการสินค้าคงคลัง: เห็นปริมาณสินค้าจริงแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาสินค้าขาดหรือเกินสต็อก

การนำ Blockchain มาใช้ใน คลังสินค้า และ คลังสินค้ให้เช่า ช่วยให้ธุรกิจมีความโปร่งใส ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนและสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้สามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัลที่ต้องการความแม่นยำและความไว

อ้างอิง https://katalyst.kasikornbank.com/ , https://www.prologis.com/ , https://www.depa.or.th/ , https://acropolium.com/