
เทคนิคจัดเก็บสินค้าในโกดังให้ประหยัดพื้นที่ที่สุด
การบริหารพื้นที่ภายในโกดังอย่างคุ้มค่าเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่จัดสรรดีจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการเติบโตของธุรกิจได้โดยไม่ต้องขยายพื้นที่เพิ่มเติม สำหรับธุรกิจที่ต้องจัดเก็บสินค้าจำนวนมากหรือใช้โกังในระยะยาว การรู้ “เทคนิคประหยัดพื้นที่” ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ
1. ใช้ชั้นวางสินค้า (Racking System) ให้เหมาะกับประเภทสินค้า
การใช้ชั้นวางที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้ใช้พื้นที่แนวตั้งได้เต็มที่ เช่น
- Selective Rack: เหมาะกับสินค้าที่ต้องหยิบบ่อย
- Drive-in / Drive-thru Rack: ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับสินค้าจำนวนมากแบบ LIFO
- Pallet Flow Rack: เหมาะสำหรับสินค้า FIFO เช่น อาหารหรือของหมดอายุ
- Cantilever Rack: เหมาะกับสินค้ายาว เช่น ท่อ ไม้ เหล็ก
การเลือกชั้นวางให้ตรงกับลักษณะสินค้า จะช่วยประหยัดทั้งพื้นที่และเวลาในการจัดการสินค้า
2. ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เต็มประสิทธิภาพ
หลายโกดังใช้พื้นที่กว้างแต่ไม่ใช้พื้นที่สูง ทำให้เสียศักยภาพไปอย่างมาก เทคนิคที่ช่วยเพิ่มการใช้พื้นที่แนวตั้ง ได้แก่ :
- ใช้ชั้นวางสูงหลายระดับ
- ใช้ทางเดินแคบลงเมื่อมีรถโฟล์คลิฟท์ที่รองรับ
- ติดตั้ง Mezzanine Floor เพื่อเพิ่มพื้นที่ 1–2 ชั้น
การใช้พื้นที่สูงช่วยเพิ่มความจุได้หลายเท่าโดยไม่ต้องขยายพื้นที่แนวราบ
3. จัดวางผังคลังสินค้าให้เหมาะกับการไหลของสินค้า
ผังการจัดเก็บที่ดีช่วยให้พื้นที่ถูกใช้คุ้มค่า เช่น
- โซนรับสินค้า (Receiving) อยู่ใกล้ประตู
- โซนจัดเก็บอยู่ต่อจากเส้นทางหลัก
- โซนหยิบและแพ็กสินค้าอยู่ใกล้จุดส่งการจัดผังแบบ “U-Flow” หรือ “Through-Flow” ช่วยให้การเคลื่อนย้ายสินค้าใช้พื้นที่น้อยลงและลดความซับซ้อนในการจัดเก็บ
4. จัดหมวดหมู่สินค้าแบบ ABC
การจัดสินค้าตามระดับการเคลื่อนไหว (ABC Classification) ช่วยประหยัดพื้นที่ของโซนสำคัญ
- หมวด A: สินค้าหยิบบ่อย วางใกล้
- หมวด B: สินค้าหยิบปานกลาง วางในตำแหน่งรอง
- หมวด C: สินค้าหยิบนาน ๆ ครั้ง วางด้านบนหรือพื้นที่ลึก
การจัดให้ถูกหมวดลดทั้งการเดินทางและความหนาแน่นจนเกิดพื้นที่สูญเปล่า
5. ใช้ระบบบาร์โค้ดหรือ WMS เพื่อลดความผิดพลาด
คลังสินค้าที่บริหารด้วยเอกสารหรือจดจำด้วยคนมักเกิดพื้นที่สุญเปล่า เช่น
- สินค้าวางซ้อนผิดโซน
- สินค้าถูกเก็บค้างโดยไม่รู้ตำแหน่ง
- มีพื้นที่กันสำรองมากเกินจำเป็น
ระบบ WMS (Warehouse Management System) หรือเครื่องสแกนบาร์โค้ดช่วยระบุตำแหน่งสินค้าแม่นยำและใช้พื้นที่เต็มที่ในทุกโซน
6. ใช้ภาชนะบรรจุและพาเลทให้เหมาะสม
การเลือกพาเลทหรือกล่องผิดขนาดทำให้เสียพื้นที่มากโดยไม่จำเป็น เทคนิคง่าย ๆ เช่น:
- ใช้พาเลทขนาดมาตรฐาน
- ใช้กล่องที่พอดีกับสินค้า
- ใช้กล่องที่วางซ้อนกันได้
- ลดพื้นที่กล่องอากาศ (Void)
ช่วยเพิ่มความจุชั้นวางและลดค่าขนส่งไปในตัว
7. ลดสินค้าคงคลังที่ไม่จำเป็น
การถือสินค้าคงคลังมากเกินไปทำให้พื้นที่ถูกใช้จนเกินความจำเป็น ควรมีระบบที่ช่วยควบคุมสต็อก เช่น
- การคาดการณ์ยอดขายที่แม่นยำ
- การเชื่อมข้อมูลขาย–คลังแบบเรียลไทม์
- นโยบายการสั่งซื้อแบบ Just-in-Time (JIT)
พื้นที่ที่เคยแน่นจะว่างลงทันทีเมื่อบริหารสต็อกได้ดี
8. ใช้พื้นที่โซนพิเศษอย่างชาญฉลาด
บางธุรกิจมีสินค้าที่ต้องใช้โซนเฉพาะ เช่น โซนเย็น โซนอันตราย โซนชิ้นส่วนเล็ก
การจัดโซนให้กระชับและยืดหยุ่น เช่น โซนแบบ Modular หรือโซนที่ปรับขนาดได้ จะช่วยลดพื้นที่เสียทิ้ง
อ้างอิง : https://www.keepstocksme.com/ https://packhai.com/