การเช่าโกดังคลังสินค้าเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้า หรือบริหารสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การวางแผนงบประมาณให้เหมาะสมตั้งแต่แรกเริ่มเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

มาดูกันว่าค่าใช้จ่ายใดบ้างที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเช่าโกดัง:


1. ค่าเช่ารายเดือน

ค่าใช้จ่ายหลักที่คุณต้องรับผิดชอบ โดยทั่วไปจะคิดตามขนาดของพื้นที่ (หน่วยเป็นตารางเมตร) และทำเลที่ตั้ง ราคาค่าเช่าจะแตกต่างกันไปตามประเภทโกดัง เช่น:

  • โกดังมาตรฐาน
  • โกดังควบคุมอุณหภูมิหรือความชื้น

2. ค่าประกันภัย

ผู้ให้เช่าบางรายอาจกำหนดให้ผู้เช่าทำประกันครอบคลุมทั้งตัวโกดังและสินค้าที่จัดเก็บภายใน โดยเบี้ยประกันจะพิจารณาจากมูลค่าสินค้า เงื่อนไขของกรมธรรม์ และบริษัทประกันที่เลือกใช้

3. ภาษีและค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย

  • ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: โดยทั่วไปเจ้าของทรัพย์สินเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในบางสัญญาอาจตกลงให้ผู้เช่ารับภาระแทน
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: ผู้เช่ามีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายจากค่าเช่า (ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด) และนำส่งกรมสรรพากร
  • ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสัญญาเช่า: ในกรณีที่มีการจดทะเบียนกับกรมที่ดิน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

4. ค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายส่วนกลาง

  • ค่าส่วนกลาง: หากเช่าโกดังในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หรือโครงการที่มีการดูแลส่วนกลาง อาจมีค่าบริการเพิ่มเติม
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต: ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ต้องรวมไว้ในการวางแผนงบประมาณรายเดือน

5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ

  • ค่าขนย้ายสินค้า: หากต้องย้ายสินค้าจากสถานที่เดิมมายังโกดังใหม่
  • ค่าอุปกรณ์จัดเก็บ: เช่น ชั้นวางสินค้า รถยก หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
  • ค่าแรงงาน: สำหรับธุรกิจที่ต้องมีพนักงานช่วยดูแลหรือจัดการสินค้าในคลัง

สรุป

ก่อนตัดสินใจเช่าโกดัง ควรวิเคราะห์และประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างรอบด้าน เพื่อวางแผนงบประมาณให้เหมาะสมและป้องกันปัญหาด้านการเงินในอนาคต หากวางแผนล่วงหน้าอย่างรัดกุม จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.parkfac.com/warehouse-rental-costs/