เช่าโกดังสำหรับธุรกิจอาหารแช่แข็ง ควรเลือกระบบไหน

ในยุคที่ธุรกิจอาหารแช่แข็งเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งจากอีคอมเมิร์ซ ซูเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจส่งออก “การเก็บรักษาสินค้า” ให้คงคุณภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญ โกดังให้เช่าสำหรับสินค้าแช่แข็งไม่สามารถใช้เหมือนคลังสินค้าทั่วไปได้ แต่ต้องเลือกใช้ระบบที่ตอบโจทย์เฉพาะทาง ทั้งเรื่องอุณหภูมิ พื้นที่จัดเก็บ และมาตรฐานความปลอดภัย

เลือกระบบทำความเย็นให้เหมาะกับประเภทอาหาร

  • Cold Storage (0 ถึง -20°C): เหมาะสำหรับเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือของแช่แข็งทั่วไป
  • Chilled Storage (0 ถึง 5°C): เหมาะสำหรับผัก ผลไม้ หรืออาหารกึ่งสด
  • Blast Freezer (-35°C หรือต่ำกว่า): ใช้ลดอุณหภูมิอาหารในเวลาสั้น ลดการสูญเสียความชื้น
  • Multi-temperature Zone: หากมีหลายประเภทสินค้า ควรเลือกโกดังที่แยกโซนอุณหภูมิได้

พิจารณาระบบรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัย

  • มีระบบ HACCP หรือ GMP รองรับ
  • พื้นที่ต้องทำความสะอาดง่าย ไม่มีการสะสมของน้ำแข็งหรือน้ำขัง
  • ระบบสำรองไฟกรณีไฟฟ้าดับ เพื่อไม่ให้สินค้าเสียหาย
  • ระบบเซ็นเซอร์แจ้งเตือนอุณหภูมิผิดปกติผ่านมือถือหรือคลาวด์

ออกแบบพื้นที่จัดเก็บให้คล่องตัว

โกดังควรมี ชั้นวางสินค้าแบบ Drive-In หรือ Mobile Rack เพื่อลดการใช้พื้นที่ และรองรับระบบ FIFO (First In, First Out)
การเช่าโกดังควรดูด้วยว่ามีพื้นที่สำหรับแพ็ค แบ่งล็อต หรือเตรียมจัดส่ง (staging area) แยกจากห้องเย็น เพื่อคงอุณหภูมิสินค้า

ทำเลสำคัญไม่แพ้ระบบ

เลือกทำเลใกล้ จุดกระจายสินค้า เช่น ท่าเรือ สนามบิน หรือศูนย์กลางการขนส่ง เพื่อลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง โดยเฉพาะอาหารที่มีวันหมดอายุสั้น

การเช่าโกดังสำหรับธุรกิจอาหารแช่แข็ง ไม่ใช่แค่เรื่องของพื้นที่เก็บของ แต่ต้องให้ความสำคัญกับ ระบบทำความเย็นที่แม่นยำ มาตรฐานสุขอนามัย และความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องส่งออกหรือขายผ่านหลายช่องทาง หากเลือกโกดังที่มีระบบครบถ้วน จะช่วยรักษาคุณภาพสินค้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในระยะยาว

อ้างอิง 

https://www.tcca.or.th