10 วิธีลดต้นทุนในการจัดการคลังสินค้า
1. วางแผนพื้นที่จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ

  • จัดเรียงสินค้าให้เหมาะสมกับความถี่ในการหยิบใช้ (เช่น สินค้าขายดีให้อยู่ใกล้จุดรับ-ส่ง)
  • ใช้ชั้นวางแนวสูง หรือระบบจัดเก็บอัตโนมัติ เพื่อลดพื้นที่ใช้สอยแนวนอน

2. ใช้ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS)

  • ช่วยติดตามสต็อกแบบเรียลไทม์ ลดข้อผิดพลาดจากการนับมือ
  • วางแผนจัดการสินค้าเข้า-ออกอย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาทำงานและแรงงาน

3. จัดทำระบบ First-In First-Out (FIFO) หรือ FEFO

  • ช่วยลดของเสียจากสินค้าหมดอายุ
  • ลดความสูญเปล่าจากการจัดเก็บสินค้านานเกินไป

4. ลดจำนวนสินค้าคงคลังที่ไม่จำเป็น (Inventory Optimization)

  • วิเคราะห์ข้อมูลยอดขายและแนวโน้มเพื่อกำหนดปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม
  • ลดต้นทุนจมจากการสต็อกมากเกินไป

5. ปรับปรุงกระบวนการรับและจัดส่งสินค้า

  • ทำงานเป็นระบบ มีขั้นตอนชัดเจน เช่น ตรวจสอบ, บันทึกข้อมูล, เคลื่อนย้าย
  • ใช้เทคโนโลยี เช่น Barcode หรือ RFID เพื่อลดเวลาและข้อผิดพลาด

6. ใช้แรงงานอย่างคุ้มค่า

  • ฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะหลากหลาย เพื่อสามารถยืดหยุ่นในช่วงพีค
  • พิจารณาการใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการที่ใช้แรงงานซ้ำๆ

7. บริหารต้นทุนพาหนะขนส่งภายในคลัง

  • ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์เคลื่อนย้าย เช่น Forklift อย่างสม่ำเสมอ
  • ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นภายในคลังด้วยการวางผังที่ดี

8. ตรวจสอบและลดความสูญเสียจากความเสียหาย

  • ใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
  • จัดฝึกอบรมพนักงานเรื่องการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างปลอดภัย

9. เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์เรื่องเงื่อนไขการจัดส่ง

  • ขอให้จัดส่งสินค้าตามรอบที่เหมาะสมกับความต้องการจริง
  • ลดต้นทุนคลังโดยให้ซัพพลายเออร์ช่วยเก็บสินค้าในบางส่วน

10. ใช้ข้อมูลวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ (Data-Driven Decisions)

ปรับเปลี่ยนแผนการจัดการตามข้อมูลจริง เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

วิเคราะห์ข้อมูลการหมุนเวียนของสินค้า, พื้นที่จัดเก็บ, การหยิบสินค้า ฯลฯ

อ้างอิง : https://hmgroupthailand.com/ https://www.logisticsconsultant-th.com/