
การประกันภัยโรงงานและคลังสินค้าถือเป็นผลประโยชน์อันมีค่าในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ในการผลิตและจัดเก็บสินค้า โดยจะพิจารณาถึงความสูญเสียทางการเงินใด ๆ ที่เกิดจากความเสียหายต่อสินค้า อาคาร หรือเครื่องจักรภายในและภายนอกสถานที่ ซึ่งเจ้าของโรงงานควรพิจารณาซื้อแผนประกันภัยให้ดี เนื่องจากไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้าที่จัดเก็บไว้ภายในโรงงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นภายนอกโรงงานด้วย และเพื่อให้เราสามารถลดค่าเบี้ยประกันภัยโรงงานเพื่อช่วยในการลดต้นทุนได้นั้น เรามีวิธีต่าง ๆ มาแนะนำ
การประกันภัยโรงงานคืออะไร
ประกันภัยโรงงานคือกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองทางการเงินแก่เจ้าของโรงงานที่เช่าโรงงาน หรือซื้อโรงงาน สำหรับการสูญเสียหรือความเสียหายที่ไม่คาดคิดซึ่งเกิดขึ้นกับโครงสร้างของโรงงาน รวมถึงสินค้าที่จัดเก็บ ความคุ้มครองนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของความคุ้มครองที่ผู้ซื้อเลือก โดยทั่วไปจะได้รับความคุ้มครองภายใต้การประกันโรงงานและคลังสินค้า ดังนี้
- งานอาคารพร้อมตกแต่งภายในและระบบไฟฟ้า
- อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์เสริม
- เฟอร์นิเจอร์ วัสดุ สายไฟ ท่อน้ำ ฯลฯ
- โรงงานและเครื่องจักร
- วัตถุดิบ สินค้าระหว่างดำเนินการ และสินค้าสำเร็จรูป
- อะไหล่ เครื่องมือ และของใช้ในครัวเรือนอื่น ๆ
ประโยชน์ของการประกันภัยโรงงาน
ประโยชน์ของการประกันภัยโรงงานนั้น ผู้ถือกรมธรรม์สามารถเพิ่มความคุ้มครองได้โดยการซื้อส่วนเสริมที่บริษัทประกันภัยจัดให้ เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพายังสามารถครอบคลุมการสูญเสียเฉพาะได้ด้วย เช่น การเสียหาย ไฟฟ้าลัดวงจร การโจรกรรม เป็นต้น มาดูกันว่าประโยชน์ของการประกันภัยโรงงานมีอะไรบ้าง
การคุ้มครองความเสียหาย: ประกันภัยโรงงานช่วยคุ้มครองความสูญเสียจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ การระเบิด ภัยธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ) การโจรกรรม และความเสียหายจากเครื่องจักรหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสียหาย แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการกระทำเจตนา, กิจกรรมผิดกฎหมาย, การสึกหรอปกติ หรือความเสียหายจากมลพิษและสงคราม
คุ้มครองสินค้าภายใต้กรมธรรม์: สินค้าภายในโรงงาน เช่น ทองคำ อัญมณี งานศิลปะ แผนผัง หรือบันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ ได้รับการคุ้มครองจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ พายุ ฝน น้ำท่วม การระเบิด และภัยธรรมชาติอื่น ๆ รวมถึงความเสี่ยงจากการรั่วไหลของสารหรือการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นภายในโรงงาน
ประเภทของกรมธรรม์: ประกันภัยโรงงานมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับประเภทของความคุ้มครองที่ต้องการ เช่น
- ความคุ้มครองแบบครอบคลุม: ให้ความคุ้มครองทุกประเภทสำหรับโรงงานและคลังสินค้า
- นโยบายมูลค่า: ใช้กับวัสดุที่ไม่สามารถระบุมูลค่าในตลาดได้
- นโยบายลอยตัว: สำหรับทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนที่บ่อย
- นโยบายเฉพาะ: คุ้มครองเฉพาะประเภทที่กำหนด เช่น การโจรกรรมหรือความเสียหายจากการกระทำผิดกฎหมาย
วิธีลดเบี้ยประกันโรงงาน
- มองหาข้อเสนอแพ็คเกจ:
เลือกแผนประกันแบบแพ็คเกจจากบริษัทประกัน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม - ลดความคุ้มครองที่ไม่จำเป็น:
ตรวจสอบความคุ้มครองที่ไม่ได้ใช้หรือไม่จำเป็น เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ลดทอนความคุ้มครองหลัก - ชำระเบี้ยประกันล่วงหน้า:
หลายบริษัทประกันจะเสนอส่วนลดหากชำระเบี้ยประกันล่วงหน้าปีหนึ่ง - ลดความเสี่ยงในโรงงาน:
นำมาตรการลดความเสี่ยงมาปฏิบัติ เช่น การติดตั้งระบบดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพ การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ และระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัย - เลือกบริษัทประกันที่เหมาะสม:
หากบริษัทประกันปัจจุบันไม่สามารถลดต้นทุนได้ ควรเปรียบเทียบบริษัทประกันหลาย ๆ แห่งเพื่อเลือกตัวเลือกที่ให้ความคุ้มครองตามความต้องการและเหมาะสมกับโรงงานของคุณ
สรุป
การทำประกันภัยโรงงานมีความสำคัญต่อการคุ้มครองทรัพย์สินและกิจการจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น การลดเบี้ยประกันสามารถทำได้โดยการเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและลดความเสี่ยงในโรงงาน เพื่อให้ธุรกิจมีความมั่นคงและได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.suwanbhut.com/blog